ทีนี้ถ้าเราดูว่าเด็กไทยเราเรียนกันแบบไหน ก็จะเห็นว่าเราเรียนแบบแยกส่วนมากๆ คนที่โปรแกรมเก่งๆ ก็จะไม่รู้งานเรื่องอื่นเลย คนที่รู้เรื่องการสื่อสารก็แทบจะไม่อยากโปรแกรม คนที่เก่งเรื่องกลไก ให้มาดูเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่สนุกแล้ว แต่ก็มีคนบางประเภทที่สามารถทำงานหลา่ยๆด้านได้ในคนคนเดียว ค่าตัวครกลุ่มนี้ก็สูงลิบลิ่ว ส่วนมากจะเป็นที่ปรึกษาเพราะคนกลุ่มนี้ลงมือทำเองมามากแล้ว ถ้าใครเคยร่วมงานกับคนกลุ่มนี้ก็จะรู้ดีว่าทำงานได้ง่ายแค่ไหน ยิ่งถ้าเขาไม่หวงวิชาได้ถ่ายทอดให้บุคลากรคนอื่น แบบนี้หน่วยงาน บ. นั้นๆ ก็จะพัฒนาด้วยความรวดเร็ว คนกลุ่มนี้เมื่อได้ร่วมงานกับคนที่อ้างว่ารู้จริงในสายงานนั้นๆ เขาก็จะรู้ทันทีว่าของจริงหรือของปลอม บางทีเขาไม่พูด แต่ถ้าคุณธรรมมากพอก็อาจจะค่อยๆ บอก คนกลุ่มนี้ด้วยหลายๆ วิธี
สิ่งที่เล่ามานี้ล้วนเป็นประสบการณ์จากผู้เขียนที่ทำงานพัฒนางานต้นแบบมาตลอดอายุการทำงาน อยากจะบอกน้องๆ ที่หลงเข้ามาในเว็บนี้ว่า เราจะรู้เรื่องๆ เดียวต่อไปไม่ได้แล้ว มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมในสายงานที่เรามีความเกี่ยวข้อง พยายามใช้เวลาให้คุ้มค่า เมื่อเจอผู้รู้ต้องรีบถามในส่วนที่เราไม่เข้าใจ การเข้าถึงข้อมูลในปัจจุบันง่ายกว่าสมัยก่อนมาก ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะใช้ไปทำอะไร ทั้งนี้ถ้าเรามองให้ไกลกว่าตัวเรา น้องๆ เป็นอนาคตของประเทศ หากเรายังทำแบบเดิมๆ เราก็ได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากเดิม
เว็บ thaiamp.com ช่วงหลังๆมานี้จะรับงานพัฒนาต้นแบบน้อยลง เนื่องจากทางเรามีโปรเจคพัฒนางานที่สำคัญๆ หลายงาน ต้องใช้ทรัพยากรและเวลามาก สิ่งที่ยังพอให้บริการได้ก็จะเป็นงานรับตัดโฟม ฟองน้ำ แบบทางวิศวกรรม ที่ทั่วๆไป ไม่สามารถทำได้ ส่วนการให้คำปรึกษาก็ยังคงเหมือนเดิมคือใช้ช่องทาง e-mail และผู้เขียนหวังว่าเด็กรุ่นใหม่ที่ชอบสายงานการพัฒนา การวิจัย เมื่อเข้ามาอ่าน มาดูรูปงานเก่าๆ ที่ผู้เขียนยังไม่ได้ลบออกจากเว็บ บางงานเก่ากว่า 20 ปี แต่มันยังให้แรงบันดาลใจกับเด็กๆ ก็จะยังไม่ได้ลบออก
สุดท้ายผู้เขียนจะพยายามนำรูปภาพ บทความใหม่ๆ บางทีอาจจะเป็นงานเก่าที่ไม่เคยนำเสนอ มาแบ่งให้ได้รับชมกันบ้าง ให้รู้ว่างานฝีมือคนไทยที่ต่างชาตินำไปใช้ก็มี งานฝีมือคนไทยที่ไปอยู่ใน Lab วิจัยก็มีมากมายที่คนสร้างเป็นคนไทย
จากไอเดียที่ว่าตอนนี้สมาทโฟนมีทุกอย่าง ที่ตัวเครื่องช่วยเรียนรู้ต้องการโปรเจกขุดของเก่าเอามาทำใหม่จึงเกิดขึ้น ด้วยความตั้งใจที่ว่าผู้ใช้งานแค่โหลดApp ลงมือถือที่เป็น แอนดรอย์ แล้วปริ้นท์บัตรคำออกมา ก็สามารถให้เด็กๆ เรียนรู้ได้มากมาย ตัวApp เองก็มีราคาหลักร้อย (ซ๊อสโค๊ดหลักแสน) มีหลายคนบอกว่าทำไมยังใช้บัตรคำที่เป็นกระดาษอยู่ เดียวนี้เขาเขียนๆ ลงใน App ได้แล้ว มันก็จริงครับ แต่บางอย่างมันไม่สามารถมาแทนกระดาษได้จริงๆ อย่างบัตรคำ เด็กๆ จะได้หัดใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ที่มือและแขน ได้หัดระบายสี หัดเขียน หัดปั้นดินน้ำมัน หรือแม้กระทั้งพับกระดาษ ตามจินตนาการของเขา และสามารถเอามาเล่นกับ App นี้ได้ คุณครูหรือผู้ปกครองก็สามารถจัดกิจกรรมร่วมกับตัวเครื่อง (เรียกว่า App นะครับต่อไปนี้) เช่นให้เด็กๆ เรียนรู้เป็นกลุ่มเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ให้เด็กๆ ได้ หรือจะจัดให้เด็กๆ แข่งกันก็ยังทำได้ เพราะนอกจากApp จะบอกคะแนนแล้ว ยังบอกเวลาที่ใช้ทำแบบฝึกหัดด้วย
มาถึงตรงนี้หลายคนคงงง ว่าApp นี้มันทำงานยังไง คืออย่างนี้ครับ ค่อยๆอ่านตามไปดังนี้ ตัวApp เมื่อลงในมือถือแล้ว(เรียกแบบนี้ละกันนะครับสมาทโฟนมันยาว) ตัวApp ผมตั้งชื่อว่า “แสนรู้” เดียวจะรู้ครับว่าทำไมถึงเรียกชื่อนี้ เมื่อเปิด App ให้ทำงานตัว มือถือจะมีเมนูให้เลือกแบบหลักๆ คือ 1.ส่วนของดูสถิติการทำแบบฝึกหัดต่างๆ โดยแยกเป็นหมวดหมู่ตามเรื่องที่เด็กๆทำ เช่น แบบฝึกหัดบวกเลข แบบฝึกหัดลบเลข … แต่ละครั้งของการเข้าใช้งานจะบันทึกวันที่ เวลา คะแนน เวลาที่ใช้ทำแบบฝึกนั้นๆ ไว้ให้ผู้ปกครองดูการพัฒนาการของลูกๆ ได้ 2.ส่วนของคู่มือ ส่วนนี้เอาไว้ใช้สำหรับครั้งแรก เปิดเข้าไปจะเป็นไฟล์ PDF บัตรคำตัวอย่าง โดยที่สามารถส่งไปที่ PC แล้วสั่งprint ลงกระดาษ A4 แบบธรรมดาหรือจะเป็นกระดาษA4 ที่หนาๆหน่อย ก็ยิ่งดี ได้ทันที (ส่วนของบัตรคำตัวอย่างจะเป็นแบบสองหน้า ด้านแรกเป็น QrCode อีกด้านเป็นตัวอย่างตัวอักษรไทย อังกฤษ ในส่วนนี้หากครูหรือผู้ปกครองต้องการนำไปต่อยอด เพื่อจัดกิจกรรมเอง ก็ไม่ต้องPrint ด้านนี้ออกมา ) 3. ปุ่มเริ่มใช้งาน พอกด เครื่องก็จะเข้าสู่หน้ากล้องถ่ายภาพของมือถือ รอรับบัตรที่ติด QrCode (ต่อไปเรียกโค๊ดเฉยๆนะครับ) พอเด็กๆ อยากรู้ว่าบัตรคำอันไหนคือตัวอะไรก็เพียงยกให้มือถือดู มือถือก็จะพูดชื่อตัวนั้นออกมา อันนี้ในส่วนของการเรียนรู้นะครับ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเด็กๆ มีอิสระพอสมควรที่จะเอาบัตรคำ ต่างๆ ส่งให้เครื่องอ่านให้ฟัง ยิ่งถ้าเป็นบัตรคำที่ได้ทำเองกับมือ เขาก็จะยิ่งจดจำได้อย่างรวดเร็ว
แบ่งตามนี้นะครับจะได้เข้าใจง่ายขึ้น
ส่วนของการเรียนรู้ เด็กๆ อยากรู้ตัวไหน บัตรคำอันไหนก็หยิบให้เครื่องอ่าน เครื่องก็จะอ่านให้ ไม่แยกหมวดหมู่(พ่อแม่ต้องแยกให้ทีละชุดๆ จะทำให้เด็กๆ จำเป็นระบบ)เมื่อเห็นว่าเด็กๆ เริ่มจำได้บ้างแล้ว ก็สามารถนำบัตรคำสั่งมาให้เครื่องอ่าน
แสนรู้ทำอะไรได้บ้าง
เล่นบัตรคำกับApp แสนรู้ แล้วน่าจะได้อะไรบ้าง อันแรกที่ทดสอบแล้วเห็นชัดเลยคือ เด็กๆจะมีความเป็นระเบียบมากขึ้น เนื่องจากเด็กๆ จะเริ่มเล่นบัตรคำแบบเล่นเสร็จแล้วว่างทับๆ กัน ทำให้พอเครื่องถามตัวต่อไป เด็กๆ จะหาด้วยความยากลำบาก เด็กๆก็จะเริ่มเอาบัตรคำมาเรียงเพื่อให้หาได้ง่ายขึ้น เด็กๆ ฝึกกล้ามเนื้อมือ แขนได้เป็นอย่างดี เพราะต้องยกบัตรนิ่งๆให้เครื่องอ่าน ฝึกความจำ ประสาทหู ตา ให้มีความสัมพันธ์กัน หากเล่นเป็นกลุ่มก็จะได้ฝึกการเข้าสังคมในวัยเดียวกัน รู้จักรอ ให้คนอื่นได้ใช้งานเครื่อง พลัดกันตอบคำถามตามคิวของตนเอง
เท่าที่เล่ามา ผู้พัฒนาเลยเรียกApp นี้ว่า “แสนรู้” และหวังว่าเด็กๆที่ได้เล่นเครื่องนี้ก็จะมีพัฒนาการด้านร่างกาย สติปัญญาเพิ่มขึ้นนะครับ เด็กๆ เรียนรู้ตลอดเวลาจะมัวรอให้พ่อแม่ว่างแล้วค่อยเล่นกันก็จะเสียโอกาสนะครับ หามือถือรุ่นเก่าๆ ที่มีกล้องและเป็นแอนดรอย ลงApp “แสนรู้” ราคาหลักร้อย ให้ลูกได้มีพัฒนาการที่ประเมินค่าไม่ได้กันนะครับ
หมายเหตุ: ตัวApp เอาไปใช้กับผู้พิการทางสายตาในการทบทวนอักษรเบลต่างๆ ได้ โดยให้ครูผู้สอนหรือผู้ช่วยนำสติกเกอร์ไปติดไว้หลังกระดาษที่กดเบลแล้ว เช่น เด็กเรียนเบล ตัว ก ก็เอาสติกเกอร์Qr code ก ไปติดไว้ด้านหลัง พอเด็กๆจะทบทวนก็ยก กระดาษให้เครื่องอ่าน เหมาะสำหรับทบทวน หรือเรียนรู้ ในกรณีการเรียนรู้ ครูอาจจะกดเบลใส่บัตรคำไว้ก่อน หลายๆ ตัว ให้เด็กสัมพัส แล้วยกขึ้นถามเครื่อง และในโหมดแบบทดสอบก็เช่นกัน เด็กที่พิการทางสายตาสามารถสัมผัสแล้วยกให้เครื่องอ่านได้
วิธีพิมพ์บัตรคำจาก App เมื่อติดตั้ง App แล้วให้กดเมนู คู่มือ โปรแกรมจะเปิดไฟล์ PDF ให้ทำการส่งไปยัง PC จากนั้น
– ใช้กระดาษ43 แผ่น สั่งPrint ครึ่งแรกก่อน หน้า 1-43
– นำกระดาษชุดแรกที่พิมพ์แล้ว คว่ำหน้าลง สั่งprint หน้า 44-86 โดยถ้าเครื่องพิมพ์มีฟังก์ชั่นพิมพ์จากหลังมาหน้า สามารถใส่กระดาษที่คว่ำหน้าเข้าเครื่องพิมพ์แล้วPrint ได้ทันที
– ถ้าเครื่องพิมพ์ไม่มีฟังก์ชั่นพิมพ์จากหลังมาหน้า ให้คว่ำกระดาษทีละแผ่น (เรียงกระดาษใหม่ก่อนพิมพ์อีกด้าน)
*** สำหรับ คุณครู หรือผู้ปกครองที่ต้องการนำบัตรคำไปทำเอง จัดกิจกรรมเอง สามารถพิมพ์บัตรคำจากหน้า44 ถึงหน้า 86 ได้ทันที(อีกด้านจะว่าง ทำกิจกรรมต่างๆได้เอง)
– ส่วนของการจัดกิจกรรมอย่างอื่นที่นอกเหนือจากบัตรคำ เช่นต้องการเอาQrCode ไปติดกับตุ๊กตา หรือกระดาษพับรูปสัตว์ หรือจัดกิจกรรมปั้นดินน้ำมันเป็นต้น สามารถสั่งซื้อสติกเกอร์เฉพาะบาร์โค๊ด ทั้งหมด ได้ราคาชุดละ 160 บาท(สติกเกอร์เคลือบพลาสติก)
** ผู้ปกครองท่านใดต้องการสั่งซื้อกระดาษตัวอย่างบัตรคำ(ไม่ต้องการPrint เอง) เป็นกระดาษอาร์ทหนา สามารถสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ ในราคา ชุดละ 200บาท รวมค่าจัดส่งธรรมดา** (ปัจจุบัน 2564 เลิกพัฒนาแอพนี้แล้ว ให้ดูเป็นไอเดียครับ)
VDO สาธิตการใช้งานเพื่อความเข้าใจครับ
– ทำบัตรคำ
– สอนเลข
]]>อุปกรณ์ช่วยเรียนรู้การพิมพ์ดีด "ทุกทึ่ ทุกเวลา ตามความพร้อมของผู้เรียน"
……. เป็นเครื่องมือที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถฝึกพิมพ์ดีดภาษาไทยแบบสัมผัสได้โดยไม่ต้องใช้เครื่อง PC หรือเครื่องพิมพ์ดีด เมื่อนำเครื่องนี้ต่อเข้ากับคีย์บอร์ดคอม PC ทั่วไป ท่านก็จะสามารถใช้งานได้ โดยเครื่องมีการแบ่งระดับการเรียนรู้เป็น 20 ส่วน และมีส่วนของแบบฝึกหัดที่สามารถสรุปคะแนนให้ทราบได้ทันที่ที่ทำแบบฝึกหัดเสร็จ ติดต่อผู้ใช้งานด้วยเมนูเสียง ภายในมีแบตเตอรี่สามารถชาร์ตได้โดยการเสียบตัวแปลงไฟทั่วไป หรือจะใช้โดยเสียบตัวแปลงไฟเลยก็ได้ สามารถพกพาไปใช้งานตามที่ต่างๆได้ ทำให้การฝึกพิมพ์ดีดง่ายขึ้นและฝึกได้ทุกที่ที่ท่านต้องการ นำไปใช้ได้กับผู้พิการทางสายตาที่ต้องการฝึกพิมพ์ดีด หรือนักเรียนที่ต้องการพิมพ์ดีดแบบสัมผัส
……. หมายเหตุ: อุปกรณ์ช่วยเรียนรู้นี้สามารถใช้งานได้กับแป้นพิมพ์ทุกภาษา และสามารถฝึกพิมพ์ดีดได้ทุกภาษาที่ต้องการ (ภาษาอื่นต้องสั่งทำตามภาษาที่ต้องการ) เหมาะสำหรับสถานศึกษาที่ต้องการฝึกให้นักเรียนสามารถพิมพ์ดีดได ้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ และผู้ที่ต้องการฝึกพิมพ์ดีด
[zooeffect AwIARObdSEQo]
]]>
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกับการวัดรอบการทำงานของเครื่องจักรต่างๆ กันก่อน เพื่อที่จะหาวิธีการวัดค่าความเที่ยงตรงได้เหมาะสม โดยผู้อ่านทดลองดูตามวิธีการดังนี้ คือ คำว่ารอบต่อนาที
แปลง่ายๆ ก็ คือ ในหนึ่งนาทีสามารถทำงานได้กี่รอบ และถ้าหากต้องการทราบว่าใน 1 วินาที ทำงานได้กี่ครั้ง เพื่อให้อ่านค่าออกมาเป็น Hz ได้ ก็จะนำมาเขียนเป็นสมการออกมาดังนี้
จาก สมการที่เราเขียนออกมาได้ ก็จะทำให้สามารถอ่านค่าการทำงานในรูปแบบ รอบต่อนาทีออกมาเป็นรอบต่อวินาทีได้ ทั้งนี้เพื่อให้การทดสอบด้วยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์สามารถนำมาใช้งาน และความเที่ยงตรงที่จะอ่านได้
โดยการทดสอบความเที่ยงตรงเราจะใช้เครื่องมือหลักๆ อยู่สองตัว คือ
โดย การนำสัญญาณที่เครื่องซิกแนลเจนฯ สร้างขึ้นส่งให้กับเครื่องวัดรอบที่สร้างขึ้น พร้อมกันนั้นเราจะทำการวัดค่าโดยออสซิลโลสโคป ดูรูปประกอบ
รูปวิธีการทดสอบ
ยก ตัวอย่างเช่น หากต้องการให้ Tacho meter อ่านค่าออกมาเป็น 60 rpm เราต้องตั้งให้ซิกแนลเจนฯ สร้างสัญญาณพัลส์ออกมาที่ 1Hz เครื่องวัดรอบที่สร้างขึ้นต้องอ่านค่าได้ 60 และเช่นเดียวกัน ถ้าเราตั้งค่า
ที่ซิกแนลเจนเป็น 30Hz เครื่องวัดรอบที่สร้างขึ้นจะต้องอ่านค่าได้ 1,800 rpm เป็นต้น
เหตุ ที่นำซิกแนลเจนเนอร์เรเตอร์มาเป็นตัวสร้างสัญญาณ เนื่องจากมีความเที่ยงตรงในการสร้างสัญญาณจะสูงกว่าการนำเครื่องมือวัดที่ สร้างขึ้นเทียบกับเครื่องวัดรอบที่มีจำหน่ายอยู่แล้วตามท้องตลาด อีกทั้งเครื่องวัดรอบที่มีจำหน่ายอยู่แล้วทั่วๆ ไป จะเป็นรุ่นที่เป็นเข็มทำให้ไม่สามารถอ่านค่าได้ละเอียด จึงใช้เครื่องมือที่มีการอ่านค่าได้ละเอียดมาเป็นตัวเทียบ
ทดสอบการทำงาน
[zooeffect AILALMLYSM1g]
จากตัวอย่าง การทดสอบความเที่ยงตรงที่เห็นนั้น จะมีค่าความผิดพลาดเป็นลิเนียร์ ตลอดย่าน เนื่องจากการคำนวณของเครื่องวัดรอบที่สร้างขึ้นนั้น ใช้สมการในการนำสัญญาณที่ได้มาทำการคำนวณรอบที่แท้จริง
ทำให้ผลที่ได้เป็นค่าที่ได้จากการนำสมการคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ อีกทั้งค่าที่ทำการคำนวณนั้นมีความละเอียดสูงถึง 32 bit ทำให้ค่าที่ออกมาละเอียดมาก
เทคนิค ที่ใช้สร้างเครื่องวัดรอบเครื่องนี้ใช้เทคนิคการวัดความกว้างของพัลส์ที่ อ่านได้ โดยการอ่านจากขอบของสัญญาณ ทำให้การนำไปวัดสัญญาณใด ๆ นั้นถึงแม้สัญญาณจะมี duty cycle ไม่เท่ากันก็ตาม เครื่องวัดก็ยังสามารถอ่านค่าได้เที่ยงตรง ที่สำคัญคือ เครื่องวัดนี้จะอ่านค่าของรอบการทำงานทุกๆ รอบนำมาคำนวณ ทำให้ค่าที่คำนวณได้นี้ นำไปใช้ในการทำงานของเครื่องมืออื่นๆ ต่อไปได้ เช่น การนำค่าที่คำนวณได้นี้ไปสร้างกล่อง ECU ที่ใช้ควบคุมเครื่องยนต์ หรือนำไปควบคุมกล่อง CDI เพื่อปรับองศาการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ได้ อีกทั้งค่าที่ส่งออกมานี้ยังสามารถนำมาเขียนกราฟการทำงานของเครื่องยนต์ เครื่องจักรที่เรานำไปวัดได้อีกด้วย และหากสังเกตุการทำงานของเครื่องวัดนี้แล้ว จะเห็นว่าในส่วนของตัวเลข จะมีการกระพริบน้อยมาก เนื่องจากค่าที่นำมาแสดงในส่วนของตัวเลขนี้ มีการนำค่าที่อ่านได้หลายๆ ครั้งมาก เฉลี่ยแล้วจึงส่งผลให้ค่าที่เราจะอ่านจากหน้าจอสามารถอ่านค่าได้ทัน แต่ในส่วนของแถบแสงนั้น มีการเฉลียค่าที่แสดงน้อยกว่า จึงเห็นว่าแถบแสงจะเปลี่ยนแปลงค่าได้เร็วกว่าในส่วนของตัวเลข และหากมีการวัดค่าที่สูงกว่าค่าที่ตั้งไว้ แถบแสงก็ยังสามารถแสดงผลได้โดยการเลื่อนแถบไปในรอบที่สูงขึ้นมากถึงสองเท่า เช่น หากตั้งค่าสูงสุดไว้ที่ 8,000 รอบต่อนาที แต่ค่าที่เครื่องวัด สามารถวัดได้มีค่าสูงกว่า แถบแสงจะเลื่อนไปในด้านที่ค่าสูง เพื่อให้ผู้ใช้งานทราบว่าค่ามากเกินกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว
ในส่วนของการคำนวณที่ให้ผลการวัดออกมาได้มากถึง 55,000 รอบต่อนาทีนั้น ทำให้เครื่องที่สร้างขึ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานในงานอื่นๆไ ด้อีกมากมาย เช่น การวัดรอบการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ความเร็วของเครื่องจักร ความเร็วของใบพัดเครื่องบิน และตัวเครื่องที่สร้างขึ้นยังสามารถรับสัญญาณอินพุทจากอุปกรณ์ตรวจจับอื่นๆ ได้อีกหลายชนิด เช่น การนำไปต่อกับตัวตรวจจับแสง พล๊อกสวิตช์
ในส่วนของการนำ ไปประยุกต์ใช้งานอื่นๆ นั้น ผู้สร้างจะนำมานำเสนอวิธีการนำไปใช้ เช่น การต่อเพื่อวัดรอบเครื่องจักร ให้เห็นกันอีกในโอกาสต่อไปครับ
หากท่านผู้อ่าน ต้องการวัดค่าของรอบการทำงานที่แท้จริงแล้ว จากผลการทดสอบที่เห็น ท่านสามารถมั่นใจได้ว่าค่าที่ท่านอ่านได้จากเครื่องวัดนี้จะเป็นค่าที่แท้ จริงและเที่ยงตรงอย่างแน่นอน หากมีข้อสงสัยอื่นๆ สามารถสอบถามผู้สร้างได้โดยตรง ทางผู้สร้างหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครื่องวัดชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่ นำไปใช้งานในด้านต่างๆ ไม่มากก็น้อย และต้องขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจกับเราเสมอมา และทางผู้สร้างยินดีให้คำแนะนำเพิ่มเติมครับ
พิเศษ สำหรับผู้ที่ต้องการนำเครื่องวัดรอบนี้ไปใช้งานในรูปแบบของตัวเอง ไม่ซ้ำกับใครๆ สามารถสั่งทำกล่องใส่ให้มีความแตกต่างออกไปได้ เช่น ที่บังแสงให้สั้นกว่าที่โชวในเว็บ หน้ากากสีอื่นๆ หรือแม้กระทั้งสีของหลอดไฟแสดงผลก็เลือกได้ว่าต้องการสีอะไร "เพื่อให้ท่านได้สินค้าที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด และเป็นงานที่สร้างขึ้นเฉพาะท่านเท่านั้น"
บทความโดย กิติภูมิ กาญจนา
]]>ทดลองใช้งานเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายแบบพื้นฐานก่อนที่จะไปใช้เทคโนโลยีระดับสูงกันดีกว่า !!!
การเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย
ปัจจุบัน การสื่อสารเกือบทุกชนิดที่เราได้สัมผัส เป็นการสื่อสารแบบไร้สายก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีบลูทูซ WIFI อื่นๆ อีกมากมาย ถ้าพูดถึงงานทางด้านเทคนิคและการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้แล้ว ค่อนข้างหาคนที่สามารถพัฒนาได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานเทคโนโลยี แต่ถ้าท่านเป็นผู้หนึ่งที่กำลังมีความสนใจเกี่ยวกับงานด้านนี้ หรือกำลังเริ่มที่จะศึกษาเทคโนโลยีไร้สาย เพื่อนำไปใช้ในงานต่างๆ ที่ท่านสนใจ เช่น การเปิด,ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า การสั่งงานเครื่องจักร เครื่องที่อำนวยความสะดวกให้มนุษย์ หรือแม้กระทั้งระบบรักษาความปลอดภัย
วิธีการที่จะสร้างชิ้นงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีไร้สายก็มีหลายวิธี
ซึ่ง ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ตามร้านอิเล็กทรอนิกส์ทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็น บลูทูซ ก็มีเป็นโมดูลมาขายให้ทดลองเล่นกันแล้ว ราคาก็ไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีที่ซื้อมา แต่บางครั้งงานที่ต้องการนำเทคโนโลยีไร้สายเข้าไปช่วย ก็ไม่ได้ต้องการเทคโนโลยีที่สูงมากนัก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความเร็ว โปโตคอลที่ทันสมัย แต่กับต้องการระยะทางที่ไกลมากขึ้น โดยมีข้อมูลที่ส่งเพียงไม่กี่บิต ถ้าจะไปเอาโมดูลที่กล่าวมาแล้วมาใช้งาน ก็คงต้องซื้อแบบที่มีกำลังส่งสูงๆ มา ซึ่งราคาก็จะสูงตามไปด้วย ยิ่งถ้าหากระยะทางในการส่งข้อมูลไกลมากขึ้น ก็คงเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มกันแน่ ผมเองกลับคิดว่าถ้าเราหาเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในท้องตลาดบ้าน เรา ที่ราคาไม่แพงมากนัก สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้ก็น่าที่จะเป็นเรื่องดี ผมเองจึงได้คิดโมดูล รับ-ส่ง หรือจะพูดว่าเป็นโมเด็มเอนกประสงค์ก็คงไม่ผิด ซึ่งมีความเร็วที่ไม่มากนัก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการระยะทางควบคุมไกลๆ ข้อมูลที่ส่งไม่เร็วมากนัก เช่น สัญญาณควบคุมต่างๆ หรือแม้กระทั้งการนำไปประยุกต์ใช้กับโครงงานที่ต้องการควบคุมระยะทางไกลๆ (หุ่นยนต์สำรวจ) ได้ จึงได้ทดลองและสร้างโมเด็มเอนกประสงค์ขึ้น มีรายละเอียดและการทำงานดังนี้
คุณสมบัติ
มาถึงตรง นี้ท่านที่มีความรู้เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างดีก็คงจะสนใจวงจร โมเด็มเอนกประสงค์นี้แล้วใช้ไหมครับ แต่สำหรับท่านที่ไม่มีพื้นความรู้ทางนี้มาก ก็คงที่จะยัง งง… อยู่ใช้ไหมครับ ผมจะขออธิบายต่อละกันครับ สำหรับหลักการที่จะนำวงจรนี้ไปประยุกต์ใช้งาน
]]>
]]>
บอร์ดควบคุมอเนกประสงค์ผ่าน TCP/IP
รับออกแบบระบบควบคุม ระบบมอนิเตอร์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต สะดวกสำหรับระบบที่ต้องการตรวจวัดค่าของสัญญาณที่ต้องการ เช่น ปริมาณการใช้พลังงานในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบโรงเรือน หรือแม้กระทั้งห้อง LAB ที่ต้องการตรวจวัดค่าจากระยะไกล ข้อดี คือ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้ช่องสัญญาณสำหรับสื่อสาร ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงกว่าระบบสื่อสัญญาณทั่วไปเมื่อเทียบกับระยะทาง
เป็น บอร์ดที่ ใช้สำหรับรับ และส่งค่าผ่าน โปรโตคอล TCP/IP ที่สามารถต่อขยาย Port ได้มากกว่า 64 อินพุท/เอาท์พุท (แบบไม่ขยายฮาร์ดแวร์เพิ่ม) สามารถมอนิเตอร์ค่าได้ผ่านโปรแกรมเบราเซอร์ (ฺBrowser)
ความเร็วของบอร์ดในการรับส่งข้อมูล 10 Mbps
มี 2 รุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม คือ
1. งานขนาดเล็กที่หน้าเว็บควบคุมไม่มีความซับซ้อนมาก จะเก็บเว็บไว้ใน MCU เลย
2. สำหรับงานที่หน้าเว็บควบคุมมีความซับซ้อนมาก จะเก็บหน้าเว็บไว้ใน SD Card เหมาะสำหรับระบบที่หน้าเว็บต้องการความสวยงาม และซับซ้อนมาก
เทคโนโลยีเว็บที่ใช้กับตัวบอร์ดได้ เช่น ajax ,css, javaScrip, java, jsp, html, jqry
[zooeffect AsDA0MboSEXj]
]]>
เนื่องจากเดิมตัวเครื่องวัดปริมาณก๊าซ หรือ bubble counter นั้นใช้วิธีการเปรียบเทียบแรงดันที่ได้จากภาครับของตัวตรวจจับ ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือ เมื่อนำไปใช้ใน LAB เป็นเวลานานจะทำให้น้ำที่อยู่ในหลอดตรวจวัดเกิดความขุ่นขึ้นทีละน้อยจะทำถึง ขุ่นมากส่งผลให้ตัวตรวจจับไม่สามารถเปรียบเทียบระดับได้ ทำให้ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนน้ำในชุดตรวจวัดบ่อย และต้องปรับระดับเกณฑ์เอง การปรับปรุงตัวเครื่องวัดใหม่นี้จะใช้วิธีการให้ ไมโครคอนโทลเลอร์เป็นตัวปรับระดับอ้างอิงแบบอัตโนมัติ ผลที่ได้จากการปรับระดับแบบนี้จะทำให้สามารถอ่านจำนวนฟองได้ดีกว่าแบบเดิม มาก ถึงแม้น้ำในหลอดตรวจวัดจะมีความขุ่นสูงมาก แต่ตัวตรวจวัดก็ยังสามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำ และการปรับปรุงให้เครื่องสามารถอ่านระดับความใสของน้ำจึงทำให้ตัวเครื่อง เตือนสภาวะที่น้ำในช่องตรวจวัดมีความขุ่นสูงกว่ามาตราฐาน เครื่องจะหยุดการทำงานและแจ้งให้ผู้ใช้เปลี่ยนน้ำก่อนการตรวจวัดต่อไป
|
|
ลักษณะของน้ำในช่องตรวจวัดที่มีความขุ่นสูง เครื่องอ่านความใสได้ 22.6% เครื่องก็ยังสามารถตรวจวัดได้ตามปกติ
|
ลักษณะของน้ำในช่องตรวจวัดที่มีความใส เครื่องอ่านความใสได้ 90.7%
|
]]>
อินเตอร์เฟส Keyboard PC ด้วย MCS51
การควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์แบบฝังตัว ในงานลักษณะต่างๆ ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานมากๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ Key ควบคุมต่างๆเข้ามาต่อกับระบบ หากมองในมุมของการออกแบบวงจรแล้ว จำนวนสาบสัญญาณทีต่อเข้ากับตัวของ CPU ก็มีผลอย่างมากในการเลือกใช้ IC เบอร์ต่างๆ ยิ่งถ้าการต่อสวิตช์แบบเมตริกแล้ว ถึงแม้ว่าจะลดจำนวนสายที่ต่อลงได้มากกว่าการต่อแบบ บิตต่อบิต แต่ก็ยังถือว่ามากอยู่หากต้องการจำนวนสวิตช์ที่มากขึ้น ต่างกับเทคนิคการสร้างและส่งสัญญาณของ Keyboard PC ที่มีจำนวนปุ่มกดมากกว่าหลายเท่าแต่กลับใช้สายสัญญาณเพียงสองเส้น หรือในงานที่ต้องการส่งสัญญาณแบบที่ต้องใช้สายน้อยจริงๆก็สามารถตัดให้เหลือเพียงเส้นเดียวได้ ดังนั้นการที่จะศึกษาถึงเทคนิคการสร้างสัญญาณของ Keyboard PC ให้ละเอียดแล้วน่าที่จะเป็นการดีที่เราจะสามารถออกแบบงานควบคุมต่างๆได้ โดยควบคุมผ่าน Keyboard PC ที่ราคาไม่ถึงร้อยบาท แต่ได้ฟังก์ชั่นท์การทำงานที่มากขึ้น หรือจะนำไปประยุกต์ใช้งานอื่นๆได้อีกมากมาย
บทความนี้จะยกตัวอย่างการติดต่อกับ Keyboard PC โดยใช้ MCS51 เป็นตัวประมวลผล
ก่อนอื่นมาดูกันก่อนว่า ขั้วต่อของ Keyboard PC มีที่ใช้งาน กันทั่วๆ ไปมีกี่แบบกันก่อน ตามรูปจะเห็นได้ว่ามีสองแบบ ที่นิยมแบบแรก คือแบบ DIN หัวต่อแบบนี้จะใหญ่ใช้ใน เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าๆ อีกแบบ คือแบบ PS2 แบบนี้ จะเห็นกันอย่างแพร่หลาย การส่งสัญญาณและลักษณะ ของสัญญาณที่ Keyboard สร้างขึ้นมีหลายแบบหลาย มาตราฐานมากๆ ผมจะขอแนะนำเฉพาะที่สามารถหามาทดลองเล่นกันได้ง่ายๆ แต่ว่าจะบอกถึงสัญญาณที่ Keyboard แบบต่างๆ ส่งออกมา ให้ตามตารางด้านล่างครับ
การทำงานของ Keyboard PC
ตัว Keyboard PC จะใช้ไฟเลี้ยง 5 Vdc และมีสายสัญญาณ สองเส้น เส้นแรกเป็น DATA อีกเส้นเป็น Clock การส่ง สัญญาณเป็นแบบ 11 Bit แต่ละปุ่มมีค่า ที่ส่งออกมาเรียกว่า Scancode โดยที่แต่ละปุ่มจะส่งค่า Scancode ออกมา ไม่เหมือนกันและไม่สนใจการกดปุ่มพิเศษต่างๆ ด้วย แต่จะส่งสัญญาณบ่งบอกว่าขณะนั้นๆ ปุ่มใดถูกกดและ ปุ่มใดถูกปล่อย ส่วนภาษาของ Keyboard ที่เราเห็นว่า สามารถพิมพ์ได้หลายภาษา ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของ Software ที่ติดตั้งในระบบปฏิบัติการและการ พิจารณาว่าปุ่มพิเศษ เช่นการกด Shift , Ctrl, Alt เป็นหน้าที่ของ BIOS ในเมนบอร์ด เครื่องคอมพิวเตอร์ จากที่กล่าวไปแล้วนั้นการจะนำสัญญาณของ Keyboard มาใช้งานได้จำเป็นจะต้องมี สายสัญญาณอย่างน้อย สามเส้น คือ GND, VCC, DATA ส่วน Clock จะใช้หรือไม่ก็ได้ การกดแป้นพิมพ์บางตำแหน่ง Keyboard เองไม่ได้ส่งสัญญาณมาเพียง Byte เดียว แต่อาจส่งมากกว่าสาม Byte เลย ดังนั้น การนำสัญญาณที่รับได้มาพิจารณาก็เป็นหน้าที่ของ แฟรมแวร์ที่ออกแบบ
หัวต่อแบบ DIN | หัวต่อแบบ PS2 |
|
|
ตัวอย่างสัญญาณ Keyboard
|
ตัวอย่างสัญญาณ Keyboard |
|
|
ตัวอย่างสัญญาณ Keyboard |
ตัวอย่างสัญญาณ Keyboard
|
]]>